13 พฤษภาคม 2568 

• Masdar ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับ Samruk-Kazyna ในระหว่างการเยือนคาซัคสถานอย่างเป็นทางการของชีคคาลิด บิน โมฮัมเหม็ด บิน ซายิด อัล นาห์ยาน

• ข้อตกลงดังกล่าวจะสนับสนุนการพัฒนาโครงการ '24/7' ที่ให้พลังงานหมุนเวียนพื้นฐานสูงสุด 500MW และโครงการกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ที่มีกำลังการผลิตสูงสุด 2GW

• นอกจากนี้ยังมีการประกาศการให้สัตยาบันข้อตกลงระหว่างรัฐบาลระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และคาซัคสถานว่าด้วยการพัฒนาฟาร์มกังหันลมขนาด 1 กิกะวัตต์ของ Masdar อีกด้วย

ชีคคาลิด บิน โมฮัมเหม็ด บิน ซายิด อัล นาห์ยาน มกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบีและประธานสภาบริหารอาบูดาบี และท่านคัสซิม-โจมาร์ต โตคาเยฟ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถาน ทรงเป็นสักขีพยานในข้อตกลงความร่วมมือระหว่างบริษัท Abu Dhabi Future Energy Company PJSC – Masdar และบริษัท Samruk-Kazyna JSC เกี่ยวกับการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนและระบบกักเก็บพลังงานแบบแบตเตอรี่ (BESS) ในประเทศคาซัคสถาน

ฯพณฯ ดร. สุลต่าน อาหมัด อัล จาเบอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และประธานบริษัท Masdar และนายนูร์ลัน ซาคูพอฟ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท Samruk-Kazyna แลกเปลี่ยนเอกสารที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงความร่วมมือ ณ ทำเนียบประธานาธิบดีในเมืองอัสตานา 

ภายใต้ข้อตกลงนี้ Masdar ซึ่งเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ Samruk-Kazyna ซึ่งเป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของคาซัคสถาน จะร่วมกันพัฒนาโครงการ '24/7' ที่จะจัดหาพลังงานหมุนเวียนพื้นฐานได้มากถึง 500 เมกะวัตต์ (MW) และโครงการ BESS ที่มีกำลังการผลิตสูงสุด 2 กิกะวัตต์ (GW) ปัจจุบัน Masdar กำลังพัฒนาฟาร์มกังหันลมขนาด 1 กิกะวัตต์พร้อม BESS ขนาด 600 เมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) ในคาซัคสถาน ซึ่งคาดว่าจะเป็นหนึ่งในโครงการกังหันลมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค

นอกจากนี้ ในระหว่างพิธี ยังประกาศการให้สัตยาบันข้อตกลงระหว่างรัฐบาลของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และคาซัคสถานสำหรับการพัฒนาโครงการพลังงานลม 1 กิกะวัตต์ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการดำเนินการโครงการ

ดร. สุลต่าน อัล จาเบอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และประธานบริษัท Masdar กล่าวว่า:
“ข้อตกลงนี้สร้างขึ้นจากความร่วมมือด้านพลังงานที่แข็งแกร่งอยู่แล้วระหว่างทั้งสองประเทศของเรา และจะสนับสนุนเป้าหมายด้านพลังงานหมุนเวียนอันทะเยอทะยานของคาซัคสถาน ด้วยการใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญด้านพลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีการกักเก็บแบตเตอรี่ของ Masdar คาซัคสถานจะสามารถตอบสนองความต้องการด้านพลังงานในปัจจุบันได้ ขณะเดียวกันก็สร้างงานใหม่ กระตุ้นเศรษฐกิจ และเตรียมพร้อมสำหรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต เรามุ่งหวังที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Samruk-Kazyna และรัฐบาลคาซัคสถานเพื่อส่งมอบพลังงานที่ยั่งยืนและปลอดภัย และขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคม”

“สอดคล้องกับเป้าหมายของประธานาธิบดีโตคาเยฟในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2060 ซัมรุก-คาซินากำลังเสริมความพยายามในการพัฒนาคาร์บอนต่ำ รวมถึงการร่วมมือกับบริษัทชั้นนำระดับนานาชาติ เช่น มาสดาร์ ข้อตกลงนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มสัดส่วนของพลังงานหมุนเวียนในส่วนผสมพลังงานของคาซัคสถาน โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อสนับสนุนอนาคตด้านพลังงานที่ยั่งยืนและยืดหยุ่นยิ่งขึ้น”

“คาซัคสถานเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับ Masdar และข้อตกลงในวันนี้จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานะของเราในประเทศนี้ โดยต่อยอดจากความร่วมมืออันแข็งแกร่งที่เกิดขึ้นจากโครงการกักเก็บพลังงานลมและแบตเตอรี่ 1 กิกะวัตต์ที่มีอยู่ของเราในภูมิภาค Jambyl ข้อตกลงนี้ยังเสริมความแข็งแกร่งให้กับความร่วมมือของเรากับ Samruk-Kazyna และเราจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดต่อไปเพื่อสนับสนุนความมั่นคงด้านพลังงาน การกระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ และการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ”

คาซัคสถานตั้งเป้าผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนให้ได้ 15 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2030 และ 50 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2050 Masdar ลงนามข้อตกลงกับ W Solar, Qazaq Green Power QGP ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Samruk-Kazyna และกองทุนพัฒนาการลงทุนคาซัคสถานในงาน COP28 เพื่อพัฒนาและดำเนินโครงการพลังงานลมขนาด 1 กิกะวัตต์ ข้อตกลงการซื้อไฟฟ้าและข้อตกลงการลงทุนสำหรับโครงการดังกล่าวได้รับการลงนามในงาน COP29 ที่เมืองบากูเมื่อปีที่แล้ว โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2026

ในปีนี้ Masdar ได้ประกาศถึงความก้าวหน้าครั้งสำคัญในด้านเทคโนโลยีการกักเก็บแบตเตอรี่ โดยเปิดตัวโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และระบบกักเก็บแบตเตอรี่แบบ 24/7 ระดับกิกะสเกลแห่งแรกของโลกที่งาน Abu Dhabi Sustainability Week (ADSW) โครงการดังกล่าวตั้งอยู่ในเมืองอาบูดาบี โดยจะมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบโฟโตวอลตาอิค (PV) ขนาด 5.2 กิกะวัตต์ (DC) ควบคู่กับระบบ BESS ขนาด 19 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) เพื่อจ่ายไฟฟ้าพื้นฐานสูงสุด 1 กิกะวัตต์ทุกวัน ซึ่งถือเป็นโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และ BESS ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ด้วยทรัพยากรพลังงานแสงอาทิตย์และลมที่อุดมสมบูรณ์ เอเชียกลางจึงเป็นภูมิภาคเชิงยุทธศาสตร์สำคัญของ Masdar นอกเหนือจากฐานการผลิตในคาซัคสถานแล้ว บริษัทยังมีฐานการผลิตที่แข็งขันในภูมิภาคนี้ รวมถึงอุซเบกิสถานและอาเซอร์ไบจาน Masdar ตั้งเป้าที่จะขยายกำลังการผลิตในพอร์ตโฟลิโอทั่วโลกให้ได้ 100 กิกะวัตต์ภายในปี 2030